เศษส่วน
 
เศษ คือ การแสดงจำนวนที่ต้องการ
ส่วน คือ การแสดงจำนวนที่แบ่งออกทั้งหมด
เศษส่วน คือ ส่วนหนึ่งของจำนวนทั้งหมด
เศษส่วนแบ่งได้เป็น 4 ชนิด
1. เศษส่วนแท้ คือ เศษส่วนที่มีจำนวนเศษน้อยกว่าส่วน
2. เศษส่วนเกิน คือ เศษส่วนที่มีจำนวนเศษมากกว่าหรือเท่ากับส่วน หรือ เศษส่วนที่มีค่ามากกว่าหรือเท่ากับหนึ่ง
3. เศษคละ คือ เศษส่วนที่มีจำนวนเต็มและเศษส่วนแท้คละกัน
4. เศษส่วนซ้อน คือเศษส่วนที่มีจำนวนเศษ หรือจำนวนส่วนหรือทั้งสองเป็นเศษส่วน
การหาเศษส่วนที่มีจำนวนเท่ากัน มีหลักการดังนี้
1. การคูณตัวเศษและตัวส่วนด้วยจำนวนเดียวกัน
ตัวอย่าง 1/2  X  3/3  =  3/6  ดังนั้น  1/2  =  3/6
2. การหารเศษส่วนและตัวส่วนด้วยจำนวนเดียวกัน
ตัวอย่าง 10/25 / 5/5 = 2/5 ดังนั้น 10/5 = 2/5
ตัวอย่าง 10/25 / 5/5 = 2/5 ดังนั้น 10/5 = 2/5
การบวกและการลบเศษส่วน
1.หากตัวส่วนมีจำนวนเท่ากันแล้ว ให้นำตัวเศษบวกหรือลบกันได้เลย ตัวส่วนให้คงเดิม
ตัวอย่าง
3/2 + 1/2  =  4/2  =  2
4/5  -  1/5  =  3/5
2. หากตัวส่วนไม่เท่ากัน ให้ทำตัวส่วนให้เท่ากันก่อนแล้วจึงนำมาบวกหรือลบกัน โดยใช้หลักการหา ค.ร.น. ของตัวส่วน เมื่อส่วนเท่ากันแล้วจึงบวกลบเฉพาะตัวเศษ ตัวส่วนให้คงเดิม
ตัวอย่าง
4/5  +  1/2 
ต้องหา ค.ร.น. ของ 5 และ 2 ก่อน นั่นคือ 10
4/5  +  1/2  =  (4/5  X  1/2) + (1/2  X 5/5) 
                 =  8/10 + 5/10
                 =  13/10
ข้อสังเกต : การบวกลบตัวเศษมีหลักการเดียวกันกับการบวกลบจำนวนเต็ม ผลลัพธ์ที่ได้อาจจะมีค่าติดลบ
การคูณเศษส่วน
การคูณเศษส่วนมีหลัก คือ นำตัวเศษคูณกับตัวเศษ และตัวส่วนคูณกับตัวส่วน 
(เลขจำนวนเต็มมีส่วนเป็น 1 เสมอ)
ตัวอย่าง 
3 X 3/10  =  3/1  X  3/10
               =  9/10
2/3  X  3/4  =  6/12  
                  =  1/2
การหารเศษส่วน
การหารเศษส่วนมีหลักคือ ให้เปลี่ยนเครื่องหมายหารเป็นเครื่องหมายคูณ และกลับเศษเป็นส่วน จากนั้นให้คิดแบบวิธีคูณเศษส่วน (เศษคูณเศษ ส่วนคูณส่วน)
ตัวอย่าง
2/7  หาร  3/5   =   2/7  คูณ  5/3
                      =   10/21
3/5  หาร  5/4   =  3/5  คูณ  5/4
                      =  15/20
                      =  3/4
เศษส่วนกับทศนิยม
- เศษส่วนกับทศนิยมมีความสัมพันธ์กัน เราสามารถเขียนเศษส่วน
ให้เป็นในรูปทศนิยมได้ หรือเขียนจำนวนที่อยู่ในรูปทศนิยมให้เป็นเศษส่วนได้
- จำนวนใด ๆ ก็ตาม ถ้าเขียนให้อยู่ในรูปเศษส่วนคือ
  เมื่อ a  และ  b  เป็น
จำนวนเต็มที่ b ≠ 0 เราจะเรียกจำนวนนั้นว่า จำนวนตรรกยะ(rational number)
เช่นจำนวนที่อยู่บนจุด A และจุด B ดูรูป
                     
- เราสามารถเขียนเศษส่วนจำนวนใด ๆ ให้อยู่ในรูปทศนิยมได้เช่น
               
   เขียนให้อยู่ในรูปทศนิยมได้เป็น   0.2
              
  เขียนให้อยู่ในรูปทศนิยมได้เป็น   0.32
              
     เขียนให้อยู่ในรูปทศนิยมได้เป็น   0.4
            
    เขียนให้อยู่ในรูปทศนิยมได้เป็น     3.4
             
   เขียนให้อยู่ในรูปทศนิยมได้เป็น   
  เป็นต้น
@ หลักการเขียนเศษส่วนให้อยู่ในรูปของทศนิยมสำหรับเศษส่วน
เป็นจำนวนบวก แบ่งออกเป็น 2 กรณีคือ
กรณีที่ 1) กรณีที่เศษส่วนนั้น ๆ มีส่วนเป็น 10,100,1000,...เช่น
1.
  เขียนในรูปทศนิยมเป็น  0.2 
2.
  เขียนในรูปทศนิยมเป็น  0.02 
3.
  เขียนในรูปทศนิยมเป็น  0.002    ได้ทันที
- จากข้อ 1. - 3. ให้พิจารณาจำนวนตำแหน่งของทศนิยม ถ้าส่วน 10
ทศนิยม 1 ตำแหน่ง ถ้าส่วน 100 ทศนิยม 2 ตำแหน่ง และถ้า
ส่วนด้วย 1000 ทศนิยม 3 ตำแหน่ง ฯลฯ
- นั้นคือจำนวนตำแหน่งของทศนิยมจะเท่ากับจำนวนเลข 0
กรณีที่ 2) กรณีที่ตัวส่วนไม่เป็นไปตามข้อ 1) คือไม่ได้ ส่วน 10
ส่วน 100 หรือส่วน 1000 ฯลฯ ให้ดำเนินการดังนี้
2.1 ให้เราหาจำนวนใด ๆ ที่มาคูณกับส่วนแล้วส่วนกลายเป็นส่วน10 ส่วน 100
หรือส่วน 1000 ให้ได้ โดยดำเนินการดังนี้คือ
2.1.1 กรณีเศษเป็นส่วนแท้
=>
   -  เอา 2 มาคูณทั้งเศษและส่วนเพื่อไม่ให้
ค่าเปลี่ยนไปต้องคูณทั้งเศษและส่วน
=>
  =    
  =  
 =  0.75  - เอา 25 มาคูณทั้งเศษและส่วนเพื่อไม่ให้ค่าเปลี่ยนไปต้องคูณทั้งเศษและส่วน
2.1.2 ในกรณีที่เศษส่วนเป็นเศษส่วนจำนวนคละให้ดำเนินการดังตัวอย่างนี้
=>
  =  2+
  =  2+
   
= 2+
 =  2+0.75   =  2.75
ตอบ 2.75
 
=> จะสังเกตุได้ว่าจำนวนเต็มคือ 2 จะไม่ต้องไปยุ่งอะไรกับเศษส่วนเลยเราจะ
เอามาบวกเข้าเมื่อดำเนินการกับเศษส่วนจบแล้วเท่านั้น
 
2.2 กรณีที่ไม่สามารถหาจำนวนใด ๆ มาคูณแล้วเป็นไปตามข้อ 2.1 คือทำส่วนให้
กลายเป็นส่วน10,ส่วน 100และส่วน 1000 ได้ ให้ดำเนินการเอาตัวส่วนไปหาร
เศษแบบตั้งหารดังตัวอย่างข้างล่างนี้
2.2.1 กรณีหารลงตัว
 
                            
                                                           
                     
     
 
2.2.2 กรณีที่เป็นทศนิยมซ้ำ
- กรณีที่เป็นทศนิยมซ้ำ หมายถึงเราจะหารไปเรื่อย ๆ ก็จะซ้ำกัน
ไปเรื่อย ๆ อาจจะซ้ำตำแหน่งเดียว สองตำแหน่ง สามตำแหน่ง
แล้วแต่เศษส่วน ที่เราจะแปลง ซึ่งเราเรียกทศนิยมนี้ว่า ทศนิยมซ้ำ
ดังตัวอย่างเช่น
1. กรณีซ้ำสองหลักเช่น
2. กรณีซ้ำสามหลักเช่น
ฯลฯ
ตัวอย่างกรณีซ้ำหนึ่งหลัก เช่น
                      
คำตอบคือ 0.666.... หรือเขียนแทนด้วย
               
    
   
- อ่านว่า ศูนย์จุดหก หก ซ้ำ
 
หลักการเขียนเศษส่วนให้อยู่ในรูปของทศนิยมสำหรับเศษส่วน
เป็นจำนวนลบ
- ในกรณีที่เศษส่วนเป็นจำนวนลบ ( - ) ทศนิยมจะเป็นจำนวนลบด้วย ส่วน
วิธีการแปลงเศษส่วนเป็นทศนิยมดำเนินการเช่นเดียวกับเศษส่วนที่เป็น
จำนวนบวก ตัวอย่างเช่น
                         
    เขียนในรูปทศนิยมเป็น      -0.3
                        
  =  -1+
  =  -1+0.3  = -1.3
เขียนในรูปทศนิยมได้ = -1.3
สรุปง่าย ๆ คือ ยกเครื่องหมายลบ( - ) ออกมาแล้วดำเนินการแปลง
เหมือนกันกับจำนวนที่เป็นบวก คือเหมือน การณีที่ 1) หรือ กรณีที่ 2)
เมื่อได้คำตอบแล้วก็ติดเครื่องหมายลบเข้าไป
- เศษส่วนกับทศนิยมมีความสัมพันธ์กัน เราสามารถเขียนเศษส่วน
ให้เป็นในรูปทศนิยมได้ หรือเขียนจำนวนที่อยู่ในรูปทศนิยมให้เป็นเศษส่วนได้
- จำนวนใด ๆ ก็ตาม ถ้าเขียนให้อยู่ในรูปเศษส่วนคือ
จำนวนเต็มที่ b ≠ 0 เราจะเรียกจำนวนนั้นว่า จำนวนตรรกยะ(rational number)
เช่นจำนวนที่อยู่บนจุด A และจุด B ดูรูป
- เราสามารถเขียนเศษส่วนจำนวนใด ๆ ให้อยู่ในรูปทศนิยมได้เช่น
@ หลักการเขียนเศษส่วนให้อยู่ในรูปของทศนิยมสำหรับเศษส่วน
เป็นจำนวนบวก แบ่งออกเป็น 2 กรณีคือ
กรณีที่ 1) กรณีที่เศษส่วนนั้น ๆ มีส่วนเป็น 10,100,1000,...เช่น
1.
2.
3.
- จากข้อ 1. - 3. ให้พิจารณาจำนวนตำแหน่งของทศนิยม ถ้าส่วน 10
ทศนิยม 1 ตำแหน่ง ถ้าส่วน 100 ทศนิยม 2 ตำแหน่ง และถ้า
ส่วนด้วย 1000 ทศนิยม 3 ตำแหน่ง ฯลฯ
- นั้นคือจำนวนตำแหน่งของทศนิยมจะเท่ากับจำนวนเลข 0
กรณีที่ 2) กรณีที่ตัวส่วนไม่เป็นไปตามข้อ 1) คือไม่ได้ ส่วน 10
ส่วน 100 หรือส่วน 1000 ฯลฯ ให้ดำเนินการดังนี้
2.1 ให้เราหาจำนวนใด ๆ ที่มาคูณกับส่วนแล้วส่วนกลายเป็นส่วน10 ส่วน 100
หรือส่วน 1000 ให้ได้ โดยดำเนินการดังนี้คือ
2.1.1 กรณีเศษเป็นส่วนแท้
=>
ค่าเปลี่ยนไปต้องคูณทั้งเศษและส่วน
=>
2.1.2 ในกรณีที่เศษส่วนเป็นเศษส่วนจำนวนคละให้ดำเนินการดังตัวอย่างนี้
=>
= 2+
ตอบ 2.75
=> จะสังเกตุได้ว่าจำนวนเต็มคือ 2 จะไม่ต้องไปยุ่งอะไรกับเศษส่วนเลยเราจะ
เอามาบวกเข้าเมื่อดำเนินการกับเศษส่วนจบแล้วเท่านั้น
2.2 กรณีที่ไม่สามารถหาจำนวนใด ๆ มาคูณแล้วเป็นไปตามข้อ 2.1 คือทำส่วนให้
กลายเป็นส่วน10,ส่วน 100และส่วน 1000 ได้ ให้ดำเนินการเอาตัวส่วนไปหาร
เศษแบบตั้งหารดังตัวอย่างข้างล่างนี้
2.2.1 กรณีหารลงตัว
2.2.2 กรณีที่เป็นทศนิยมซ้ำ
- กรณีที่เป็นทศนิยมซ้ำ หมายถึงเราจะหารไปเรื่อย ๆ ก็จะซ้ำกัน
ไปเรื่อย ๆ อาจจะซ้ำตำแหน่งเดียว สองตำแหน่ง สามตำแหน่ง
แล้วแต่เศษส่วน ที่เราจะแปลง ซึ่งเราเรียกทศนิยมนี้ว่า ทศนิยมซ้ำ
ดังตัวอย่างเช่น
1. กรณีซ้ำสองหลักเช่น
2. กรณีซ้ำสามหลักเช่น
ฯลฯ
ตัวอย่างกรณีซ้ำหนึ่งหลัก เช่น
คำตอบคือ 0.666.... หรือเขียนแทนด้วย
- อ่านว่า ศูนย์จุดหก หก ซ้ำ
หลักการเขียนเศษส่วนให้อยู่ในรูปของทศนิยมสำหรับเศษส่วน
เป็นจำนวนลบ
- ในกรณีที่เศษส่วนเป็นจำนวนลบ ( - ) ทศนิยมจะเป็นจำนวนลบด้วย ส่วน
วิธีการแปลงเศษส่วนเป็นทศนิยมดำเนินการเช่นเดียวกับเศษส่วนที่เป็น
จำนวนบวก ตัวอย่างเช่น
เขียนในรูปทศนิยมได้ = -1.3
สรุปง่าย ๆ คือ ยกเครื่องหมายลบ( - ) ออกมาแล้วดำเนินการแปลง
เหมือนกันกับจำนวนที่เป็นบวก คือเหมือน การณีที่ 1) หรือ กรณีที่ 2)
เมื่อได้คำตอบแล้วก็ติดเครื่องหมายลบเข้าไป
หลักการเขียนทศนิยมกลับมาเป็นเศษส่วน
- เราสามารถที่จะแปลงทศนิยมให้เป็นเศษส่วนได้เช่นเดียวกับการ
แปลงเศษส่วนเป็นทศนิยม เช่น
1) - 0.3 เขียนในรูปเศษส่วนได้ =
        
2) 0.45 เขียนในรูปเศษส่วนได้ =
3) 1.105 เขียนในรูปเศษส่วนได้ =
- จะเห็นได้ว่าทศนิยมที่แปลงกลับไปเป็นเศษส่วน ตัวส่วนจะมีเลขศูนย์ ที่ต่อท้ายเลข 1 เท่ากับจำนวนตำแหน่งของทศนิยม อย่างในข้อ 3 มีทศนิยม สามตำแหน่งตัวส่วนก็จะเป็น 1000 ลองดูต่อที่ข้อ 2
และข้อ 1 ประกอบ
- เราสามารถที่จะแปลงทศนิยมให้เป็นเศษส่วนได้เช่นเดียวกับการ
แปลงเศษส่วนเป็นทศนิยม เช่น
1) - 0.3 เขียนในรูปเศษส่วนได้ =
2) 0.45 เขียนในรูปเศษส่วนได้ =
3) 1.105 เขียนในรูปเศษส่วนได้ =
- จะเห็นได้ว่าทศนิยมที่แปลงกลับไปเป็นเศษส่วน ตัวส่วนจะมีเลขศูนย์ ที่ต่อท้ายเลข 1 เท่ากับจำนวนตำแหน่งของทศนิยม อย่างในข้อ 3 มีทศนิยม สามตำแหน่งตัวส่วนก็จะเป็น 1000 ลองดูต่อที่ข้อ 2
และข้อ 1 ประกอบ
ขอบคุณที่มา / อ้างอิง : หนังสือเรียนเก่งง่ายนิดเดียว 
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น