วันจันทร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2558

วันจันทร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2558

การถ่ายภาพ

การถ่ายภาพนั้น สิ่งที่เราต้องความสนใจ มี 3 อย่างคือ
1. ปริมาณแสง
2. องค์ประกอบ และทิศทางแสง
3. อารมณ์ภาพ และการสื่อความหมาย
อย่าลืมนะครับ
ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=Xi9guLcTBdU
       : http://www.siamfreestyle.com/forum/index.php?showtopic=895

การทำหนังสั้น

เทคนิควิธีการสร้างหนังสั้นแต่ง่าย ๆ

        ขั้นแรก หาองค์ประกอบด้านวิธีการ คือ หลักการ การวางแผน การถ่ายทำ การตัดต่อ การประเมินผล
        
        ขึ้นสอง หาองค์ประกอบด้านบุคลากร คือ บุคลากรในหน้าที่ต่างๆตั้งแต่ ตัวละคร บุคคลทางเทคนิค รวมไปถึง ผู้มีความสารถเฉพาะครับ จะดีมากๆ และอีกอย่างคือทีมเวิคครับ
       
        ขั้นสาม เตรียมการผลิต คือ วางแผน เตรียมสถานที่ บท อุปกรณ์ ให้ครบ
        
        ขั้นสี่  บทหนัง คือ วางบท คำพูด ระยะเวลาสถานที่ เรื่องราว ที่จะสื่อออกมา
                เรื่องบทจะมี หลายแบบ
                           - บทแบบสมบูรณ์  ประมาณว่า เก็บทุกรายละเอียดทุกคำพูดอ่ะครับ
                           - บทแบบอย่างย่อ ประมาณว่า เปิดกว้างๆให้ผู้ชมสังเกตในความเข้าใจของตนเอง
                           - บทแบบเฉพาะ   (ไม่จำเป็นหรอก)
                           - บทแบบร่างกำหนด (ไม่จำเป็นอีกแหละ)
        ขั้นห้า การผลิต อย่างแรกเลย แต่ละฉากคุณต้องเลือกมุมกล้องให้เหมาะสม กับสภาพอากาศ ขนาดวัตถุ ว่าควรเห็นแค่ไหน  ขนาดมุมกล้องมีหลายแบบนะเยอะมาก ผมพูดรวมๆละกัน มีแบบ ระยะไกลมาก ระยะไกล ระยะปานกลาง ระยะใกล้  (รายละเอียดท่าสนใจเข้ามาคุยนะครับ)
        ขั้นหก ค้นหามุมกล้อง
                  - มุมคนดู ประมาณว่า เป็นมุมถ่ายจากรอบนอกของฉากนั้นๆอ่ะครับ เหมือนผู้ชมเป็นคนสังเกตฉากนั้นๆ
                  - มุมแทนสายตา ไม่ต้องอธิบายมั้ง
                  - มุมพ้อยออฟวิว มุมนี้แนะนำให้ใช้เยอะๆครับ สวยมากมุมนี้ในการทำหนัง เป็นมุมที่ใกล้ชิดเหตุการณ์ครับ เช่น การถ่ายข้ามไหล่ของตัวละคร หรือวัตถุ ครับ
        ขั้นเจ็ด การเคลื่อนไหวของกล้อง (พูดรวมๆนะถ้าจะเอาละเอียดเข้ามาคุยกัน)
                  - การแพน การทิลท์ ประมาณว่า การทำเคลื่อนไหวกล้องให้เห็นตำแหน่งวัตถนั้นสัมพันกันครับ
                  - การดอลลี่ การติดตามการเคลื่อนไหวเลยครับ
                  - การซูม เป็นการเปลียนองค์ประกอบภาพครับ เหมือนเน้ความสนใจในจุดๆหนึ่ง

        ขั้นแปด เทคนิคการถ่าย (เออผมจะอธิบายไงดีเนี้ยมันเยอะมากอ่ะครับ)
                     เอาเป็นว่าจับกล้องให้มั่นอ่ะครับ อย่างผมก็จะจับ แบบกระชับกับตัวเลย คือแขนทั้งสองข้างแนบตัวเลยครับ และก็ไม่แนะนำให้เคลื่อนไหวกล้องแบบรวดเร็วนะครับ กล้องจะปรับโฟกัสไม่ทัน ทำให้ภาพเบลอครับ
ถ้าอยากทราบเทคนิคการถ่ายแบบละเอียดก็ เข้ามาถามละกันนะครับ ผมต้องใช้ประสปการณ์ตรงอธิบายอ่ะ
        ขั้นเก้า หลังการผลิต ก็ต้องตัดต่อ เพิ่มเสียง เอฟเฟค ความคมชัด ความเด่นชัดเรื่อง อักษรหนังสือ
        ขั้นสิบ การตัดต่อ (เยอะมากครับอธิบายรวมๆละกัน)
               อย่างแรกเลยครับจัดลำดับภาพ และเวลาให้ตรงและเหมาะสม อันไหนเกินยาวก็ให้ตัดทิ้งครับอย่าให้ขัดอารณ์
               อย่างสองคือจัดภาพให้เหมาะสม เนื้อหาและโครงเรื่องที่เราวางไว้ครับ
               อย่างสามแก้ไขข้อบกพร่องครับ
               อย่างสี่ เพิ่มทคนิคให้ดูสวยงาม(เดียวจะอธิบาย)
               อย่างห้า เรื่องเสียง(เดียวจะอธิบาย)
        เอาละครับขั้นการตัดต่อและมาดูละกันการตัดต่อเชื่อมฉากมีอะไรบ้าง
              - การตัด cut
              - การเฟด fade
              - การทำภาพจางซ้อน
              - การกวาดภาพ
              - ซ้อนภาพ
              - ภาพมองทาจ
        โปรแกรมที่จะนำมาใช้ ผมแนะนำดังต่อไปนี้นะครับ
        1. movie maker (Xp ก็มีมาให้แล้ว) ตัดต่อเบื้องต้นครับ ตัวเชื่อมเฟรมค่อนข้างน้อย ไม่แนะนำนะครับ
        2. Sony vegas 7.0 ค่อยดีขึ้นมาหน่อย การทำงานค่อนข้างละเอียดครับ มีลุกเล่นเยอะมากมาย(แนะนำสำหรับมือใหม่ครับ)
        3. adobe premiere pro CS6 มีการตัดต่อค่อนข้างละเอียดอ่อนมากๆครับใช้งานยากแต่ ถ้าใช้เป็นสามารถสร้างหนังได้ใหญ่ๆเรื่องนึงเลยนะครับ แต่การใช้งานยุ่งยากไม่เหมาะกับมือใหม่

ที่มา : https://sites.google.com/site/khtpshortfilm/thekhnikh-kar-tha-hnang-san/thekhnikh-withi-kar-srang-hnang-san-tae-ngay

วันเสาร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

พบทางออกด้วยสติ

ทำไมเด็กชายตัวน้อยถึงหานาฬิการาคาเป็นแสนของเศรษฐีเจอ ทั้งที่ผู้ใหญ่กว่า 20 คนหาไม่เจอ
เศรษฐีกับพวกไปเที่ยวฟาร์มแห่งหนึ่ง ทุกคนสนุกสนานกับธรรมชาติ และกิจกรรมในฟาร์มมาก

แต่ขณะที่กำลังจะเดินออก เศรษฐีคนนั้นก็พบว่านาฬิกาพกรุ่นเก่าที่ภรรยาซื้อให้ในวันเกิดหายไป

มันต้องตกอยู่ในคอกม้าอย่างแน่นอน
เขากับเพื่อนช่วยกันกระจายกันเดินหานาฬิกาทั่วคอกม้า
ระหว่างเดินหาเพื่อนก็พยายามพูดให้กำลังใจเศรษฐีคนนี้
เดินหาเท่าไรก็ไม่พบ

เขาไปแจ้งเจ้าของฟาร์มให้ช่วยเหลือ
เจ้าของก็แสนดีเกณฑ์คนที่ว่างงานอยู่เกือบ 20 คนไปค้นหา
มีทั้งคุณลุงที่ประจำอยู่คอกม้า ผู้หญิงที่ทำความสะอาด และเด็กชายคนหนึ่ง

ทุกคนกระจายกันค้นหา มีการตะโกนบอกกันเป็นระยะๆว่าค้นตรงนั้นแล้วไม่เจอ ให้คนนั้นไปหาตรงนี้

ใช้เวลาค้นหาประมาณ 1 ชั่วโมงก็หานาฬิกาไม่เจอ
เศรษฐีเริ่มสิ้นหวัง คิดว่าคงต้องสูญเสียนาฬิกาเรือนนี้ไปอย่างแน่นอน



ขณะที่พนักงานของฟาร์มจะเดินจากไป เด็กชายคนนั้นเดินย้อนกลับมาหาเศรษฐีคนนี้อีกครั้ง

ขอผมลองเข้าไปดูอีกครั้งนะครับ แต่ขอผมเข้าไปคอกม้าคนเดียว

แม้จะรู้สึกว่าเสียเวลาเปล่า แต่เมื่อเด็กน้อยมีน้ำใจ เขาก็พยักหน้าทั้งที่ไม่มั่นใจว่าจะหาเจอ
พวกเพื่อนๆก็บ่นลับหลังว่าพวกเราและคนของฟาร์มตั้งเยอะยังหาไม่ได้

ไปหาคนเดียวจะเจอได้อย่างไร

แต่ไม่ถึง15 นาที เด็กชายคนนี้เดินออกมาด้วยรอยยิ้ม เขาชูนาฬิกา

ใช่ เรือนนี้หรือเปล่าครับ

เศรษฐีดีใจมาก เพราะนั่นคือนาฬิกาพกแสนรักที่เขากำลังค้นหาอยู่

เขากล่าวขอบคุณและให้สินน้ำใจกับเด็กน้อย
แต่ยังคาใจ

เธอหาเจอได้อย่างไร

เด็กน้อยยิ้มแฉ่ง บอกว่าพอเข้าไปข้างในคนเดียว เขาก็เพียงแต่นั่งเงียบๆ แล้วค่อยๆเปลี่ยนจุดนั่งไปเรื่อยๆ

แค่จุดที่ 3 ผมก็ได้ยินเสียงติ๊กต่อก ติ๊กต่อกเขาเล่า
ผมแค่เดินตามเสียงนั้นไปก็เจอนาฬิกาเรือนนี้

ครับ การค้นหานาฬิกาเรือนนี้ทั้ง 2 ครั้ง ทุกคนคุยกันไปหากันไป

ทุกคนพยายามมองหาตัวนาฬิกา

แต่ไม่ได้คิดจะฟังเสียงของนาฬิกา

เสียงพูดคุยกลบเสียงดังของนาฬิกาไปสิ้น

เรื่องเล่าเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าการแก้ปัญหาไม่ได้มีเพียงหนทางเดียว

เราสามารถค้นหานาฬิกาได้ 2 แบบ

จะดูหรือจะฟัง

ทุกปัญหาก็เช่นกัน เราจะแก้ปัญหาแบบที่คนส่วนใหญ่ทำ

หรือเราจะมองปัญหาให้
ละเอียด มองให้ครบทุกองค์ประกอบ

บางทีการแก้ปัญหาอาจมีหลายหนทาง

และอีกเรื่องหนึ่งที่เด็กคนนี้สอนเราก็คือในวิกฤติที่คิดว่าปัญหาหนักหนาสาหัส

บางครั้งเราต้องนิ่ง
ต้องมีสติทำใจให้สงบ
เมื่อมีสมาธิ จึงจะค้นพบทางออก

ค่ะต้องนิ่ง และเงียบเท่านั้น
เราจึงจะได้ยินเสียงนาฬิกา


Cr : ดร. รสา คำ
Cr : http://hot.ohozaa.com/hot-9-20-131691

วันอาทิตย์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2558

อสุภะกรรมฐาน

อสุภะกรรมฐาน พิจารณาร่างกาย เพื่อความเข้าใจสัจธรรมแห่งชีวิตและเพื่อให้เกิดปัญญา รู้เท่าทันกามกิเลส ไม่หลงในรูปกาย อันเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยงแท้ มีความเสื่อมสลายไปตามธรรมชาติ มิอาจฉุดรั้งไว้ได้แม้แต่รายเดียวทั้งเราและผู้อื่น

อสุภะกรรมฐานดูแล้วเยี่ยมมากครับ

ดูให้ถึงใจเรื่องอสุภะ

อสุภะตรงๆ

“ภิกษุทั้งหลาย ! เครื่องจองจำที่ทำด้วยเชือก เหล็กหรือโซ่ตรวนใดๆ เราไม่กล่าวว่าเป็นเครื่องจองจำที่แข็งแรงทนทานเลย แต่เครื่องจองจำคือ บุตร ภรรยา ทรัพย์สมบัตินี่แล ตรึงรัดมัดผูกสัตว์ทั้งหลายให้ติดอยู่ในภพอันไม่มีที่สิ้นสุด เครื่องผูกที่ผูกหย่อนๆแต่แก้ได้ยากคือ บุตร ภรรยา และทรัพย์สมบัตินี่เอง รูป เสียง กลิ่น รส และโผฏฐัพพะนั้นเป็นเหยื่อของโลก เมื่อบุคคลยังติดอยู่ในรูปเป็นต้นนั้น เขาจะพ้นจากโลกมิได้เลย ไม่มีรูปใดที่จะรัดรึงตรึงใจบุรุษได้มากเท่ารูปแห่งสตรี”                                                                                
       “ดูกรภิกษุทั้งหลาย ! ผู้ยังตัดอาลัยในสตรีไม่ได้ ย่อมต้องเวียนเกิดเวียนตายอยู่ร่ำไป แม้สตรีก็เช่นเดียวกัน ถ้ายังตัดอาลัยในบุรุษไม่ได้ ย่อมประสบทุกข์บ่อยๆ กิเลสนั้นมีอำนาจควบคุมอยู่โดยทั่วไม่เลือกว่าวัยใดเพศใด”

แฉธุรกิจหารายได้พิเศษ ทำงานผ่านเน็ต ไม่จำกัดวุฒิ

ทำงานผ่านอินเตอร์เน็ต รายได้ดี ทำเป็น Part time รายได้ 3000 - 5000 บาท ยิ่งขยันยิ่งได้เยอะหลายคนคงเคยเห็นโฆษณาประเภทนี้ส่งมาตามอีเมล เฟสบุ๊ค หรือโฆษณาตามเว็ปไซต์ต่างๆนะครับ วันนี้เลยอยากเอามาแฉให้เพื่อนๆได้ดูครับ

เนื่องจากเจ้าของกระทู้ ได้ถูกผู้ไม่หวังดี พยายามปกปิดความลับของพวกหลอกลวงให้ทำงานผ่านเน็ต
แล้วมีคนบางคนแจ้งลบกระทู้นี้ไป ถ้าไม่หลอกลวงจริงๆ จะกลัวอะไร ??? จริงมั้ย เจ้าของกระทุ้อยากเอาภาพมาลงให้ดูนะ ว่าการทำงานของพวกนี้มันเป็นยังไงบ้าง เพราะ ทุกวันนี้ยังมีคนโดนหลอกอยู่ทุกวัน ถ้ามีเวลาจะถ่ายรูป ลงมาให้ดูให้เห็นน เลย

ด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่าไอ้ที่โฆษณา ที่ว่า  
"รับสมัครงานโปรโมทเวบไซท์แพนเค้ก เขมนิจ
ทำหน้าที่ส่งเมลล์รายได้ 10,000-50,000 บาทต่อเดือน
อายุ 17ปีขึ้นไป (ไม่จำกัดวุฒิ)
ใช้ Internet และ คอมพิวเตอร์พื้นฐานได้

แบบฟอร์มสมัครงาน คลิก!!!!! """

อย่าว่าอย่างงู้นงี้เลย เพราะคนที่บอกว่าได้เป็นแสนเป็นล้านนี่ดูหน้าตาการแต่งตัว คือมันไม่ใช่อ่ะ

เจ้า ของกระทู้เริ่มเบื่อเพราะรู้สึกว่าที่ฟังมามันยังดูแปลกๆ แค่ส่งอีเมลได้เป็นแสนเป็นล้าน จนเจ้าของกระทู้แบบ เอาวะ รอกินข้าวโรงแรมให้สมกับที่จ่ายไป600ก่อนแล้วกัน แล้วไปเดินเล่นสยามดีกว่า ปรากฏ กินข้าวเสร็จจะออกแล้ว

เจ้าของกระทู้โดนด่าเลย ที่ลุกออกจากงาน ไม่มีมารยาท -*-

ก็เลยเอาวะ ไม่ออกก็ได้เอาให้มันรู้ไปเลยว่านี่คืองานอะไรกันแน่
ปรากฏ นั่งไปทั้งวัน จนงานเลิก เกือบๆ6โมงเย็น เจ้าของกระทู้ก็ยังไม่เข้าใจว่ามันงานอะไรกันแน่ ถามใครก็ไม่มีใครตอบ

ปรากฏ ท้ายงาน ก็มีคนมาบอกว่า พรุ่งนี้ต้องกลับบไปที่ตึก ออลซีซั่น ใหม่
เพื่อฟังเป็นครั้งสุดท้าย แล้วก็จะบรรจุขอมูลของเราลงดาต้าเบท ของบริษัทเลย

เรา ก็กลับไปในวันรุ่งขึ้น ก็นั่งฟังตั้งแต่4โมงเย็นจน2ทุ่ม ก็ยังไม่ได้ข้อมูลอะไร พูดจา เวิ้นเว้อ จนกระทั่ง30นาทีสุดท้ายถึงบอกความจริงว่านี่คือธุระกิจขายตรง ให้เราไปขายของเฮอร์บาไลฟ์ โดยต้องเสียเงินค่าส่งทุน เป็น ซุปเปอร์เวเซอร์38,000บาท เพื่อนำผลิตภัณท์ไปขายต่อ

แบบ โหววววว ทุกวันนี้ จขกท. ยัง งง ว่า มันเกี่ยวกะงานอีเมลยังไง

อาทิตย์นึง มีคนถูกหลอกไปร่วมงานนี้กว่า 500คน

อาหาร โรงแรมก็จริงแต่มันเป็นอาหารพื้นๆเลยนะ ให้เต็มที่ ค่าอาหาร300บาท/คน แล้วเก็บ600บาท/คน แล้วอาทิตย์นึงคนไปร่วมงานเป็นหลายร้อยคน

แบบฟังดูแล้วไม่ค่อยแฟร์กับคนที่ไม่รู้เรื่องเลยอ่ะ

-----------------------------------------

แต่ของผมโดนเพื่อน และรุ่นน้องที่มหาวิทยาลัยโทรมาให้ชื้อของที่นี้ บอกว่าจะลดความอ้วนได้ตามโปรแกรมต่างๆที่วางไว้ ช่วงนั้นผมโดนโทรมาเกือบทุกวัน วันละหลายเวลา จนผมทนไม่ไหว ต้องว่ากลับไป จนทุดท้ายเลิกคบเพื่อนและน้องๆคนนั้นเลยครับ ประมาณว่าเสียความรู้สึก

ส่วน เรื่องอีเมล์ พวกที่ส่งเมล์ ก็เปลี่ยนเมล์ทุกวัน สมัครเมล์ใหม่ทุกวัน ที่สำคัญคนที่ส่งเมล์มาให้เรา เขาได้เงินนะครับ ประมาณว่าทำนาบนหลังคน ตัวเองได้เงินจากการสร้างความรำคาญให้คนอื่น

ตอนนี้บริษัทแบบนี้ทำเป็นขบวนการแล้วนะครับ

---------------------------------------------

ผมโดนรุ่นพี่ชวนไปทำครับ

คือผมเริ่มหมั่นไส้ บริษัทหอกนี่ก็ตรงนี้แหละ มันจะขย้อนๆบอก เหมือนพวกขี้ติดตูดทำไม บอกมาให้หมดเลยสิ ว่าจะให้ทำอะไรมั่ง วันไหน ยังไง
ขายอะไร ทำอะไร รวยยังไง นัดไปทำหอกอะไรซ้ำซากหลายๆวัน
ตอนนั้นผมเิริ่มแบบไม่อยากจะยุ่งด้วยแล้ว ติดที่ว่ารุ่นพี่เป็นคนชวน

ที นี้เค้าจะอธิบายวิธีการทำงานของที่นี่ ว่า ขั้นแรกอยากจะขายสินค้า ต้องมีเงินเปิดบัญชีถึง 37000 แต่ว่าเค้าจะมีทางที่จะช่วยเรา หาเงิน 37000 นั่น

"คือเราต้องช่วยเค้าขายสินค้าจากคนใกล้ตัว แล้วเราจะได้ส่วนแบ่งจนถึง 37000 ทำให้เราเปิดบัญชีอะไรนั่นได้"

คน ใกล้ตัว ซึ่งนั่นก็คือเพื่อน หรือเพื่อนของเพื่อน เนี่ยแหละ ทำให้ผมเริ่มหมั่นไส้อีก คิดว่าเพื่อนหรือเพื่อนของเพื่อนผม มันจะมีตังซื้อสินค้าไอ้นี่ที่ราคา 3000 บาท รึไง (ถ้ามีก็แล้วไป) แต่คนเรามันไม่เหมือนกัน สังคมไม่เหมือนกัน ทำวิธีนี้ทุกคนไม่ได้หรอก

ซึ่งสุดท้ายแล้ว ผมก็ทำวิธีนี้ไม่ได้ ถึงเพื่อนผมจะอ้วนเป็นโขลงๆเลยก็ตาม
"แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะมีตังซื้อไอ้สินค้าที่ทำให้หุ่นเพรียวนี่"

"ผมไม่ชอบเลย ที่นี่มันขายของยังกะขายลูกอม"

สุดท้ายผมทำวิธีนี้ไม่ได้ ที่ปรึกษาระดับสูงๆ ก็เลยมาบอกผมว่า

"เมิงไม่มีตังค์ใช่มั้ย (คือไอ้บริษัทนี่ใช้วาจาสุนัขไม่รับประทานในการสนทนากันครับ)"
" ตอนเริ่มต้น รุ่นพี่เมิงก็ไม่มีตังเหมือนกัน แต่ว่าเขาขวนขวายหาตังมาจนได้"เอาเริ่องความมานะบากบั่น มากล่อมให้ตูละอายแก่ใจอีก -*-)
"เพื่ิอนเมิงน่ะ มีมั้ย"
"เพื่อนเมิงซัก 10-20 คน ยืมคนละพันสองพันเมิงก็เปิดบัญชีได้แล้ว"

ตรงนี้แหละที่ทำให้ผมฉุนกึ้ก กับไอ้ที่ปรึกษาระดับสูงคนนี้ แถมมันยังบอกอีกว่า

"ตอนสมัยรุ่นพี่เมิงก็เหมือนเมิงนี่แหละ"มีเปรียบเทียบอีก)
"ตอนแรกทำยังไงมันก็ไม่ยืม จนสุดท้าย กรูนี่แหละ เรียกให้มันมานั่งข้างหน้ากรู แล้วให้มันโทรยืมเพื่อนมัน ต่อหน้ากรูนี่แหละ"
"ปากเมิงมันก็บอกว่า ทำไม่ได้ ทั้งๆที่ยังไม่ได้ลงมือทำเลย ทำไมเมิงเป็นคนแบบนี้วะ"หอกเอ้ย มาเสี้ยมสอนตูอี้กก)

สุดท้ายแล้ว ผมเลยตัดสินใจเลิกยุ่งกับไอ้บริษัทนี่ทันที
ผมเชื่อ ว่าทำแล้วมันได้ตังค์จริง แต่ผมเกลียดวิธีการของเค้า
ใครมีทุนหน่อย จะลองลงทุนดู แล้วก็เสียเวลาไปนั่งฟังประชุมทุกวันก็ลองละกันครับ อาจจะรวยเงินล้านจริงๆก็ได้

สินค้าเค้าดีจริงครับ ผมเคยลองใช้มาบ้าง แต่การทำงานที่นี่อุบาทว์ต่างจากสินค้ามากครับ


------------------------------------

หุหุหุๆ ไอ้ยี่ห้อนี้ บ้านเราเคยโดนเป็นแสนๆเลยนะ ไอ้ซุปเปอร์ไวเซอร์นี้

แต่แม่กับพี่สาวเราโดนล้างสมองไปแล้วก็ขี้เกียจจะไปขัด

ทะเลาะกันบ้านแทบแตก มีบังคับไปประชุมที่รีสอร์ทวังตระไคร้ด้วย

จะได้หนีไปไหนไม่ได้ โดนล้างสมองเต็มๆ ให้ไปนั่งตบมือ

คนนี้สำเร็จคนนั้นสำเร็จ คุณก็เป็นอย่างผมได้

(ไปเป็นเพื่อนแม่เรานั่งฟังมันเป็นวันยังไม่เข้าใจเลย ใครพูดอะไรก็ตบมือๆ)

พอเป็นซุปแล้ว ก็จะได้ลด 50% เฉพาะ ตอนนี้เท่านั้น

ต้องซื้อตุนอย่างงั้นอย่างนี้ เสี้ยมมันทุกวันกำไรเห็นๆ รวยแน่ๆ

ถามว่าพวกวิตามินมันก็โอเคนะ เป็นผักผลไม้ไฟเบอร์อะไร

กินแล้วก็ถ่ายดีจริงๆ เขียวเป็นผักเชียว แต่โห เม็ดใหญ่เท่าลูกชิ้นรักบี้

ราคานี่ซื้อบัตรไปดูเดี่ยว8 แบบที่นั่งดีๆได้เลยนะ แพงshipหาย


แม่เราญาติเรา นั่งกินเชคชงเอง ใส่นมใส่ผงอะไรเขย่าๆแช่เย็น

พูดตรงๆรสชาติก็อย่างอ้วก เห็นแล้วก็อยากอ้วก แค่คิดจะกินก็ผอมแล้วอะ

พอซื้อมาแล้วขายไม่ออก ไปให้มันช่วยขาย รับคืน มันก็ไม่รับคืน

ไอ้ที่โทรมาทุกวัน พอเสียเงินค่าโง่จนมันอัพไปไม่รู้กี่ระดับก็เงียบไป

สุดท้ายก็ได้แต่ยอมรับว่าโง่เอง ก็อ่านเอาละกัน คิดแล้วหงุดหงิด

อีเมลมันยังส่งมากวนใจ เปลี่ยน topic ไปเรื่อยๆๆๆ

ที่ จขกท เล่ามาด้านบนเป็นเรื่องจริงทุกประการนะ เราก็เคยได้ยิน

คนรู้จักเล่ามาเหมือนกัน เตือนแล้วก็ไม่เชื่อ ไอ้ตึก allseason นั่นแหละ

ขออย่าให้ใครหลงเชื่อมันอีกเลย สาธุ !

--------------------------------------

น้องคนรู้จักเคยโดนหลอกไปฟัง...ฟังเสร็จละอินโคตรๆ
ออกมามึนเหมือนโดนมนต์ ตื้อที่บ้านจะเอาเงินให้ได้
แต่พี่ชายเค้าเป็นตร. เลยไปเเถวนั้นเอาทะเบียนรถมาตรวจ
(เค้าอ้างว่ารถคันนี้เป็นของคนนั้น ทำงานละขับเบนซ์)
ปรากฎ...เป็นรถเช่ามาทั้งหมดเลย -_-!! ซึ้งสนิทหายบ้าเลย

---------------------------------------

เราอยากจะบอกว่าเราก็เคยเจอแต่แค่คุณลองใช้สติคิดให้ ดีสิคะว่าแค่คุณทำงานจาก internet วันละไม่กี่ชั่วโมงจะหาเงินได้หลักแสนหลักล้านเหรอ ความโลภทำให้เราโดนหลอก ถ้าอย่างนั้นพวกคุณไม่ต้องเรียนหนังสือกันแล้วล่ะค่ะ ปริญญาโทยังไม่ได้เงินเยอะขนาดนั้นเลย

-----------------------------------------

เคยไปที่ตึก Thai ABCDE ค่ะ (ไม่เปิดเผยค่ะ )

อยากรู้ว่างาน part time อะไรได้เงินดีเลยลองส่งข้อมูลไป
เข้า ไปแล้วหนวกหูมาก คือเปิดดนตรีเสียงดัง โฆษณาว่าผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพกำลังมาแรงอย่างนั้นอย่างนี้ ... ใจเราไม่อยากฟังพวกนี้ แต่ด้วยความอยากรู้ว่าจะมีระบบทำงานอะไรที่มัน work มั๊ย เลยทนฟังต่อไปเรื่อยๆ

ซักพักก็มีคนซักประมาณ 20-30 คนต่อคิวขึ้นมาบอกว่า เริ่มงานกับ บริษัท HXXXXX ( ขอไม่เปิดเผยชื่อบริษัท ) มากี่ปี สิ้นเดือนที่แล้ว บริษัท HXXXXX จ่ายให้ xxx บาท ขอบคุณ บริษัท Hxxxx ค่ะ/ครับ (เรียงลำดับคตั้งแต่หลักหมื่นยันหลักล้าน)
ทุกคนพูดจบก็จะมีเสียงกรี๊ดจากหน้าม้าด้านหลังประกอบกับเสียงดนตรีที่ดังจนแก้วหูสั่น

จนสุดท้ายเค้าบอกว่าให้แยกกลุ่มคุยกับผู้ที่ประสบความสำเร็จทั้งหลายแหล่ ..แต่ตอนนั้นรู้ทันละ เลยไม่เข้ากลุ่ม กลับบ้านเลยดีกว่า

เราโชคดีว่าคนที่เค้าชวนไม่ตื้อ เลยจบไปแบบไม่เสียความรู้สึกมาก
______________________________________________________________________________________
สุดท้ายนี้ อยากบอกว่า

มีหลายคนที่ต้องเป็นหนี้และก็สมัยนี้ ยังใช้เงินที่กู้ไม่หมดเลย

Cr : http://pantip.com/topic/33061732

วันพุธที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2558

ทัศนคติ... เปลี่ยนคนให้เก่งได้จริงหรือ?



วันนี้ผมเรียกยุ้ย เลขาของผมให้ลองช่วยทำงานชิ้นหนึ่ง แม้ตัวผมเองก็รู้ว่ามันยาก แต่ก็คิดว่าลองดูละกัน เลยเรียกเธอมาแล้วให้งาน
"ยุ้ยครับ ลองช่วยพี่หาวิธีประดิษฐ์กระเป๋าเดินทาง ที่เราสามารถยืนขี่มันไปภายในสนามบิน แทนที่จะต้องลากมันให้เมื่อยทั้งแขนและขาได้มั้ยครับ?" ผมถาม
คุณผู้อ่านลองทายดูสิครับว่าเธอตอบผมว่ายังไง?





1. "แฮะๆ... หนูทำไม่เป็น ทำไม่ได้หรอกค่ะ"
2. "น่าจะได้นะคะ... หนูขอลองคิดและหาข้อมูลดูก่อนนะคะ"
ข้อ 2 ครับ! แม้เธอเองจะไม่ได้จบวิศวะหรือสถาปัตย์มา แต่เธอมีทัศนคติด้านบวก มีความเชื่อในความคิดที่ว่า มันน่าจะเป็นไปได้ และนั่นคงเป็นเหตุผลหนึ่งที่เธอเป็นคนเก่ง ทำอะไรก็สำเร็จอยู่เสมอ
ทัศนคติ หมายถึง ความรู้สึกนึกคิดของบุคคลที่มีต่อวัตถุอย่างใดอย่างหนึ่ง ว่ามีลักษณะอย่างไร มีความรู้สึกทางบวกหรือทางลบ ชื่นชอบหรือไม่ชื่นชอบ หรือเห็นด้วยหรือคัดค้าน
คนเราจะเก่ง หรือไม่เก่ง ขึ้นอยู่กับ “ทัศนคติ” ของแต่ละคน เวลาเจอสิ่งที่ท้าทายหรือโจทย์ๆหนึ่ง บางคนบอกกับตัวเองว่า... "ฉันไม่เก่ง!"... "ฉันทำไม่ได้หรอก!" คือมองเห็นแต่ปัญหา ที่เขาเรียกกันว่า “แพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้ขึ้นชก” หรือปิดประตูความสำเร็จนั่นเอง
ส่วนคนเก่ง นั้นสิ่งที่แตกต่างจากคนไม่เก่งอย่างชัดเจนก็คือ “ทัศนคติ" นั่นเอง ผมเคยเขียนเล่าถึงลุงสังเวียน พนักงานอาวุโสที่บริษัทบีบีดีโอของผม แกอายุหกสิบกว่า ปลดเกษียณจากการเป็นพนักงานส่งเอกสาร แล้วมาลองทำหน้าที่ตัดต่อ ดั๊บเทปประจำออฟฟิศผม ลุงสังเวียนเนี่ยแหละที่ช่วยหาทางประดิษฐ์ "นํ้าพุรูปดอกชบา" ที่ผมฟุ้งอยากจะทำให้มันเปิดปิดเองตามแสงอาทิตย์ ถ้าคุณยังจำได้... แกเป็นอีกคนหนึ่งที่มี "ทัศนคติในทางบวก" มุ่งมั่น เพียรพยายาม หาวิธีเพื่อทำสิ่งยากๆให้เป็นไปได้ ทุกวันนี้ผมชวนแกเข้าประชุมครีเอทีฟด้วยเสมอ เพราะผมชอบทัศนคติของแก ที่ช่วยส่งเสริม และสร้างแรงบันดาลใจให้น้องๆในออฟฟิศ "ฮึดสู้" ครับ
ไม่มีใครเก่งแบบพรวดพราดหรอก ผมเชื่อเรื่องทัศนคติในทางบวก... และการฝึกฝนแบบเฉพาะเจาะจง (deliberate practice) ซึ่งถูกใช้ในการพัฒนาคนเก่งๆ รวมทั้งนักกีฬาระดับโลกอย่าง ราฟาเอล นาดาล ที่เริ่มหัดเล่นเทนนิสตั้งแต่อายุ 4 ขวบ โรเจอร์ เฟดเดอเรอ และโนวัค ยอโควิช ที่เริ่มจับแรคเก็ตตอน 8 ขวบ... หรือนักกอล์ฟดังอย่าง ไทเกอร์ วู้ดส์ ที่หัดเล่นกอล์ฟตั้งแต่อายุยังไม่ 2 ขวบ พวกเขาเหล่านี้ล้วนถูกฝึกฝนมาอย่างหนักและยาวนานหลายพันหลายหมื่นชั่วโมง จนประสบการณ์ ฝีมือ และความคิด ตกผลึกจนเป็นแชมป์เด็ก แชมป์เยาวชน แชมป์จังหวัด แชมป์เขต แชมป์ประเทศ แล้วในที่สุดก็กลายมาเป็นแชมป์โลกครับ
"ตีลูกมาให้โดนกรวย! ยังไม่โดน... เอาใหม่ ตั้งใจหน่อย! เล็งมาที่กรวยก่อน จำตำแหน่งไว้ แล้วตอนตีตามองลูก ตัวนิ่งแล้วฟอลโลว์ทรูให้สุด!" ครูหนุ่ม พิชิตชัย อดีตนักเทนนิสทีมชาติไทย ปัจจุบันเป็นโค้ชเทนนิสที่ราชกีฑาสโมสร พยายามสอนผม
"ครูหนุ่มครับ ผมไม่ได้ท้อนะครับ แต่บั้นเอวผมมันท้อแล้วก็ยอกแล้ว... ขอพักก่อนนะวันนี้" ผมบอกแกพร้อมกับเดินเป๋ เอามือจับบั้นเอวออกมานอกคอร์ทเทนนิส
"ผมห้าสิบแล้วนะ ไม่ใช่สิบห้า แล้วก็ไม่ใช่นาดาลด้วย... ขืนฝึกแบบนี้ คงต้องมีคนมาหามกลับบ้านนะครับครู" ผมโอดครวญ

"โอเคครับ งั้นก็ตีเท่าที่ทำได้ละกัน" เขาตอบ
ผมคิดในใจว่า นี่ถ้าผมเจอโค้ชคนนี้ตั้งแต่ผมเป็นเด็ก ตอนผมยังมีความแข็งแกร่ง มีศักยภาพ ผมคงฟินมาก แล้วก็คงอาจจะคว้าแชมป์เทนนิสกับเขาบ้างแล้ว (ในชีวิตเคยได้แค่ถ้วยกีฬาสี!) แต่นี่ดันมาเจอแกตอนแก่ ไปตีที... ก็ต้องไปนวดที แถมแกก็ฝึกผมแบบเฉพาะเจาะจงอีกต่างหาก ผมเลยบอกลาแก แล้วมาขี่จักรยานแทนครับ (แกคงคิดว่าผมคงหายไปหัดเล่นเปตอง... ไพ่นกกระจอก... หรือไม่ก็ไปหัดเต้นลีลาศแทนแน่ๆเลย)
สรุป... ใครอยากเก่ง ก็ต้องมีทัศนคติในทางบวก คิดว่าต้องทำได้ แล้วก็ฝึกฝนแบบเฉพาะเจาะจง เฉพาะด้าน หรือวิชาชีพนั้นๆ เช่น นักร้องก็ฝึกร้องเพลง เชฟก็ฝึกทำอาหาร แพสทรี่เชฟก็ฝึกทำขนม ครีเอทีฟก็ฝึกคิดงานครีเอทีฟ ฝึกไปจนกว่าจะเก่ง จงเชื่อในพรแสวง ว่าเป็นบิดาของพรสวรรค์ เชื่อเถอะว่า คุณทำได้ แล้วสักวันคุณจะเก่งเอง อ้อ! เกือบลืมบอกไปว่า... ถ้าเก่งแล้วอย่าลืมถ่อมตัวด้วย เพราะไม่มีใครชอบคนขี้โม้หรอกครับ

Credit : https://www.facebook.com/Suthisak.Sucharittanonta/posts/10153028251241952?fref=nf

วันเสาร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2558

สูตรหน้าขาวสวยใส ด้วย มะนาว

>สูตรหน้าขาวสวยใส ด้วย มะนาว<<
สาวๆ รู้ไหมครับว่า มะนาว ทำให้เราสวยขึ้น ก็ด้วยความเปรี้ยวเนี่ยแหละครับ ที่มีวิตามินซีสูง ก็เลยมีผู้คิดค้นสูตรมาพอกหน้าขัดผิวกันอย่างมากมาย เราก็เลยจะหยิบยกมารวบรวมให้คุณๆ ซะหน่อย เป็นผู้หญิงอย่าหยุดสวยครับ ไปดูสูตรต่างๆ กันเลยดีกว่า
ก่อนที่เราจะพอกหน้านั้น เราควรล้างหน้าให้สะอาดก่อนนะครับ เพราะว่าถ้าหากเราพอกเลย สิ่งสกปรกบนใบหน้าเราอาจจะยิ่งจับก้อนกันและทำให้เราเกิดสิวอุดตันได้
1. สูตรหน้าใส ลดสิว (ส่วนผสม น้ำมะนาวครึ่งลูก และดินสอพอง 4-5 เม็ด หรือแล้วแต่เราต้องการ) นำดินสอพองและมะนาวมาผสมให้เข้ากัน (อย่าใส่มะนาวมากเกินไป) จะได้ครีมที่เหนียวข้น พอกทิ้งไว้ประมาณ 10 – 15 นาทีก่อนเข้านอน และล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำสัปดาห์ละประมาณ 3 – 4 ครั้ง ประมาณ 3 เดือน และหลังจากนั้นก็ลดจำนวนครั้งลงครับ และสูตรมะนาวกับดินสอพองนี้ ยังสามารถช่วยลดรอยจุดด่างดำที่ขาได้ด้วยครับ โดยให้ทาบริเวณขาทุกคืนก่อนนอน ตื่นเช้าค่อยล้างออก ทำเป็นประจำจุดด่างดำก็จะค่อยๆ หายไป
2. สูตรแต้มสิว (ส่วนผสม น้ำมะนาว 1 ช้อนชา และไข่ขาว 1 ช้อนชา) ให้นำส่วนผสมทั้งสองมาผสมกันและตีจนเป็นเนื้อเดียวกัน แต้มที่ตุ่มสิวทิ้งไว้ 30 นาที ล้างออกด้วยโฟมล้างหน้า สิวจะหายไป (แต่อาจจะไม่ได้หายภายในครั้งเดียวนะครับต้องทำบ่อยๆ)
3. สูตรหน้าอ่อนวัย ใสปิ้ง (ส่วนผสม น้ำมะนาว 1 ช้อนชา และน้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ) นำส่วนผสมมาคนให้เข้ากัน ทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15 – 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำแค่อาทิตย์ละ 1 ครั้ง
4. สูตรลดการตกกระและชะลอการเกิดรอยตีนกา (ส่วนผสม น้ำมะนาว น้ำผึ้ง แป้งหมี่ ไข่แดง) นำส่วนผสมทั้งหมดมาผสมให้เข้ากัน นำมาพอกบนหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำสัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้ง
5. สูตรหน้าขาวใสเปล่งปลั่ง (ส่วนผสม มะนาว 1/2 ช้อนโต๊ะ และหัวไชเท้า 1/2 ถ้วยตวง) นำส่วนผสมมาปั่นรวมกันให้ละเอียดกลายเป็นเนื้อเดียวกัน นำไปพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น
6. สูตรกระชับรูขุมขน (ส่วนผสม น้ำมะนาว 1 ผล น้ำอุ่นสำหรับล้างหน้า และน้ำเย็นแบบที่แช่ในตู้เย็น) ล้างหน้าให้สะอาดและล้างครั้งสุดท้ายด้วยน้ำอุ่น ใช้ผ้าซับหน้าให้แห้ง และใช้ มะนาว ทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำอุ่น และใช้น้ำเย็นล้างหน้าอีกครั้ง
7. สุตรแก้ข้อศอก หัวเข่าดำด้าน ใช้เปลือก มะนาว ที่บีบน้ำออกหมดแล้ว นำมาขัดๆ ถูๆ ผิวส่วนที่ด้านหรือแตก จะช่วยให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื้น รอยด้านหรือแตกก็จะค่อยๆ จางหายไป
8. สูตรมือนุ่ม (ส่วนผสม น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ และน้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ) นำน้ำมะนาวมาผสมกับน้ำตาล เอามาถูกับมือประมาณ 10 – 15 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่นกับสบู่ เช็ดให้แห้งและตามด้วยโลชั่นสำหรับผิว
9. สูตรฟันขาวๆ เคยได้ยินมาว่า ให้เอาผ้าเช็ดหน้าจุ่มกับน้ำมะนาวและเอามาถูๆๆ ที่ฟัน ฟันเราจะขาวสวย แต่ว่ารสชาติคงจะเปรี้ยวไปทั้งปากเลย

Cr: https://www.facebook.com/PhytoThailand/photos/a.1410525889219923.1073741868.1401158733489972/1445050782434100/?type=1&theater