ทฤษฎีบทของพีทาโกรัส กล่าวไว้ว่า
แบบที่ 1 ในรูปสามเหลี่ยมมุมฉากใด ๆ ความยาวกำลังสองของด้านตรงข้ามมุมฉากมีค่าเท่ากับผลบวกของความยาวกำลังสองของด้านประกอบมุมฉากทั้งสองด้าน หรือพิจารณาจากพื้นที่รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส
แบบที่ 2 ในรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากใด ๆ พื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสบนด้านตรงข้ามมุมฉากมีค่าเท่ากับผลบวกของพื้นที่รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสบนด้านประกอบมุมฉากสองด้าน ดังรูปประกอบ
จากรูป จะสังเกตว่า พื้นที่ของสี่เหลี่ยมจัตุรัสสีแดง(ด้านตรงข้ามมุมฉาก)จะเท่ากับ ผลรวมของพื้นที่ของสี่เหลี่ยมจัตุรัสสีน้ำเงิน(ด้านประกอบมุมฉาก)
ทฤษฎีบทพีทาโกรัส
ถ้าสามเหลี่ยม ABC เป็นสามเหลี่ยมมุมฉาก ซึ่งมี C เป็นมุมฉาก ด้านตรงข้ามมุมฉาก(C) ยาว c ด้านตรงข้ามมุม A ยาว a ด้านตรงข้ามมุม B ยาว b ดังรูป
จะได้ความสัมพันธ์ระหว่างความยาวของด้านทั้งสามของรูปสามเหลี่ยมสามเหลี่ยมมุมฉาก ABC ดังนี้
c2=a2+b2
ทฤษฎี บทพีทาโกรัสนี้ ง่ายมากๆครับ และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหาได้ตลอด และชอบออกข้อสอบ o-net เท่าที่ติดตามออกทุกปีครัับ ฉนั้นต้องเข้าใจและต้องทำโจทย์เยอๆครับ ถ้าแปลเป็นภาษาพูดง่ายๆ ของทฤษฎีนี้ก็คือ ด้านตรงข้ามมุมยกกำลังสอง เท่ากับ ด้านที่เหลือยกกำลังสองบวกกัน ครับ มาดูตัวอย่างการนำไปใช้กันครับ
ตัวอย่างที่ 1 จงหาความยาวที่เหลือของรูปสามเหลี่ยมต่อไปนี้
วิธีทำ จากรูปจะเห็นได้ว่าสามเหลี่ยมที่กำหนดให้เป็นสามเหลี่ยมมุมฉากน่ะครับ ดังนั้นเราสามารถหาความยาวด้านที่เหลือได้โดยใช้ทฤษฏีบทพีทาโกรัสได้เลยครับ
จากทฤษฏีบทพีทาโกรัส คือ ด้านตรงข้ามมุมฉากยกกำลังสอง เท่ากับ ด้านที่เหลือยกกำลังสองแล้วบวกกัน นั่นคือ
c2=a2+b2
จากรูป a=4 , b=3 หาค่าของ c ครับ
จะได้ว่า
c2=42 + 32
=16 + 9
= 25
นั่นคือ c2=25
ดังนั้น c=5
ตอบ c ยาว 5 หน่วย
ตัวอย่างที่ 2 จงหาความยาวที่เหลือของสามเหลี่ยมต่อไปนี้
วิธีทำ จากรูปจะเห็นได้ว่าสามเหลี่ยมที่กำหนดให้เป็นสามเหลี่ยมมุมฉากน่ะครับ ดังนั้นเราสามารถหาความยาวด้านที่เหลือได้โดยใช้ทฤษฏีบทพีทาโกรัสได้เลยครับ
จากทฤษฏีบทพีทาโกรัส คือ ด้านตรงข้ามมุมฉากยกกำลังสอง เท่ากับ ด้านที่เหลือยกกำลังสองแล้วบวกกัน ด้านตรงข้ามมุมฉากคือด้าน d
นั่นคือ
d2 = 72+242
d2 = 49+576
d2 = 625
d = 25
ตอบ d ยาว 25 หน่วย
ตัวอย่างที่ 3 จงหาความยาวที่เหลือของสามเหลี่ยมต่อไปนี้
วิธีทำ จากรูปจะเห็นได้ว่าสามเหลี่ยมที่กำหนดให้เป็นสามเหลี่ยมมุมฉากน่ะครับ ดังนั้นเราสามารถหาความยาวด้านที่เหลือได้โดยใช้ทฤษฏีบทพีทาโกรัสได้เลยครับ
จากทฤษฏีบทพีทาโกรัส คือ ด้านตรงข้ามมุมฉากยกกำลังสอง เท่ากับ ด้านที่เหลือยกกำลังสองแล้วบวกกัน
ด้านตรงข้ามมุมฉากคือด้าน c
นั่นคือ
c2=52+122
c2=25+144
c2=169
c=13
ตอบ c ยาว 13 หน่วย
ตัวอย่างที่ 4 จงหาความยาวของด้านตรงข้ามมุมฉากของรูปสามเหลี่ยมต่อไปนี้
วิธีทำ จากรูปจะเห็นได้ว่ารูปที่กำหนดให้เป็นรูปสามเหลี่ยมมุมฉาก ดังนั้นเราสามารถใช้ทฤษฎีพีทาโกรัสหาความยาวของสามเหลี่ยมนี้ได้ครับ จากรูปจะได้ว่า
AB2=AC2+BC2
AB2=82+152
AB2=64+225
AB2=289
AB=17
ดังนั้น AB ยาว 17 หน่วยครับ
ตอบ ด้านตรงข้ามมุมฉากยาว 17 หน่วย
ตัวอย่างที่ 4 จงหาความยาวของด้านที่เหลื่อของสามเหลี่ยมต่อไปนี้
วิธีทำ จากรูปจะเห็นได้ว่า
ด้านตรงข้ามมุมฉาก คือ PR ยาว 15 หน่วย
ด้าน QR ยาว 12 หน่วย
ต้องหาความยาวของ PQ
เนื่องจากรูปสามเหลี่ยมรูปนี้เป็นรูปสามเหลี่ยมุมฉาก ดังนั้น สามารถหาความที่เหลือโดยใช้ทฤษฎีบทพีทาโกรัส
คือ ด้านตรงข้ามมุมฉากยกกำลังสอง = ด้านที่เหลื่อยกกำลังสองแล้วนำมาบวกกัน
นั่นคือ
PR2=QR2+PQ2
แทนค่าความยาวตามที่โจทย์กำหนดให้ลงไปเลยครับ จะได้
152=122+PQ2 แก้สมการเพื่อหาค่า PQ คับ จะได้
PQ2=152-122
PQ2=225-144
PQ2=81
PQ=9
นั่นคือ PQ ยาว 9 หน่วย
ตอบ ความยาวของด้านที่เหลือคือด้าย PQ ยาว 9 หน่วย
ขอบคุณที่มา : https://sites.google.com/a/web1.dara.ac.th/pythagoras/--sara-kar-reiyn-ru/--thvsdibth-pi-tha-ko-ras
http://www.mathpaper.net/index.php/2013-01-01-12-26-42
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น