อยากจะผอมเพราะอะไร เพราะว่าอยากสุขภาพดีร่างกายแข็งแรง หรือ หุ่นดี ต้องตั้งเป้าด้วยว่า จะลดน้ำหนักให้ได้กี่กิโลกรัม และ
2.ต้องตั้งด้วยว่าจะลดขนาดลงไซส์อะไร
โดยใช้วิธีซื้อเสื้อผ้าขนาดเล็กกว่าไซ้ส์ปัจจุบันอยู่หนี่งไซส์ เช่น คุณไซส์ m ให้ซื้อไซส์s มาใส่ หลังจากออกกำลังกายเสร็จ ก็ให้ลองใส่เสื้อผ้าขนาดs ดูว่าใกล้ใส่ได้หรือยัง เพื่อเป็นกำลังใจให้กับตัวเอง เมื่อใส่ได้ ก็จะยิ่งเพิ่มความพยายามในการออกกำลังกายและลดน้ำหนักลง
โดยใช้วิธีซื้อเสื้อผ้าขนาดเล็กกว่าไซ้ส์ปัจจุบันอยู่หนี่งไซส์ เช่น คุณไซส์ m ให้ซื้อไซส์s มาใส่ หลังจากออกกำลังกายเสร็จ ก็ให้ลองใส่เสื้อผ้าขนาดs ดูว่าใกล้ใส่ได้หรือยัง เพื่อเป็นกำลังใจให้กับตัวเอง เมื่อใส่ได้ ก็จะยิ่งเพิ่มความพยายามในการออกกำลังกายและลดน้ำหนักลง
3.การเลือกใส่เสื้อผ้าเป็นสิ่งสำคัญ
-ไม่ควรเสื้อผ้าให้ใหญ่จนเกินไป สบายเกินไป เช่น กางเกงเอวยืด เสื้อยืดตัวใหญ่ ผ้าตัวหนาๆ เพราะว่าทำให้ดูตัวใหญ่ และอ้วนง่าย เนื่องจากเราสวมใส่สบาย จึงรับประทานได้เรื่อยอิ่มช้าลง และตัดทอนกำลังใจในการลดน้ำหนัก เพราะเห็นรูปร่างมันดูใหญ่และหนา
-ใช้วิธีใส่เสื้อผ้าเพื่อ ควบคุมและเตือนใจตนเอง
-ไม่ควรเสื้อผ้าให้ใหญ่จนเกินไป สบายเกินไป เช่น กางเกงเอวยืด เสื้อยืดตัวใหญ่ ผ้าตัวหนาๆ เพราะว่าทำให้ดูตัวใหญ่ และอ้วนง่าย เนื่องจากเราสวมใส่สบาย จึงรับประทานได้เรื่อยอิ่มช้าลง และตัดทอนกำลังใจในการลดน้ำหนัก เพราะเห็นรูปร่างมันดูใหญ่และหนา
-ใช้วิธีใส่เสื้อผ้าเพื่อ ควบคุมและเตือนใจตนเอง
4.จะออกกำลังกายด้วยวิธีไหน
-การออกกำลังกายต้องเหมาะสมกับสภาพร่างกายของตัวคุณ เช่น ในผู้ที่มีปัญหาเรื่องหัวเข่า ไม่ควรวิ่ง เพราะว่าจะทำให้เข่ารับน้ำหนักมากเกินไป ควรออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำ เพราะว่าน้ำจะรับน้ำหนักตัวไว้ได้ครึ่งหนึ่ง
-ไม่ควรออกกำลังกายประเภทที่ยุ่งยากเกินไป เมื่อยุ่งยากมากเกินไปก็จะเบื่อการออกกำลังกาย
-อย่าออกกำลังกายหักโหมจนเกินไป อาจจะเกิดอาการบาดเจ็บต่อร่างกาย และก็จะทำให้เบื่อการออกกำลังกาย ไม่อยากออกกำลังกายอีก
-การออกกำลังกายต้องเหมาะสมกับสภาพร่างกายของตัวคุณ เช่น ในผู้ที่มีปัญหาเรื่องหัวเข่า ไม่ควรวิ่ง เพราะว่าจะทำให้เข่ารับน้ำหนักมากเกินไป ควรออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำ เพราะว่าน้ำจะรับน้ำหนักตัวไว้ได้ครึ่งหนึ่ง
-ไม่ควรออกกำลังกายประเภทที่ยุ่งยากเกินไป เมื่อยุ่งยากมากเกินไปก็จะเบื่อการออกกำลังกาย
-อย่าออกกำลังกายหักโหมจนเกินไป อาจจะเกิดอาการบาดเจ็บต่อร่างกาย และก็จะทำให้เบื่อการออกกำลังกาย ไม่อยากออกกำลังกายอีก
5.หาเพื่อนออกกำลังกายเป็นเพื่อน
เมื่อมีเพื่อนออกกำลังกายด้วย ก็จะทำให้อยากออกบ่อยๆ และไม่เบื่อการออกกำลังกายโดยง่าย และเพื่อนก็ยังคอยเป็นกำลังใจให้คุณพยายามออกกำลังกายอีกด้วย และคุณก็ยังได้สังคมกับเพื่อนใหม่ๆ
เมื่อมีเพื่อนออกกำลังกายด้วย ก็จะทำให้อยากออกบ่อยๆ และไม่เบื่อการออกกำลังกายโดยง่าย และเพื่อนก็ยังคอยเป็นกำลังใจให้คุณพยายามออกกำลังกายอีกด้วย และคุณก็ยังได้สังคมกับเพื่อนใหม่ๆ
6.อย่าอดอาหาร
เพราะการอดอาหาร จะทำให้ร่างกายจดจำว่า ร่างกายอด แรกๆจะเห็นว่าน้ำหนักลดลงจริง ที่ผอมในตอนแรกก็คือกล้ามเนื้อมันลดลง แต่ไขมันไม่ลด แต่ต่อไป ร่างกายของคุณก็จะเริ่มเก็บสะสมไขมัน เพราะว่าร่างกายกลัวอด จะทานอาหารแล้วเก็บสะสม ไม่ยอมเผาผลาญง่ายๆ ก็จะเห็นว่า อดอาหารแต่ทำไมไม่ผอม เมื่อเกิดอยากทานขึ้นมา ก็จะทานมากและอ้วนขึ้นมาเท่ากับที่ลดลงหรือมากกว่า เรียกว่า Yoyo effect
เพราะการอดอาหาร จะทำให้ร่างกายจดจำว่า ร่างกายอด แรกๆจะเห็นว่าน้ำหนักลดลงจริง ที่ผอมในตอนแรกก็คือกล้ามเนื้อมันลดลง แต่ไขมันไม่ลด แต่ต่อไป ร่างกายของคุณก็จะเริ่มเก็บสะสมไขมัน เพราะว่าร่างกายกลัวอด จะทานอาหารแล้วเก็บสะสม ไม่ยอมเผาผลาญง่ายๆ ก็จะเห็นว่า อดอาหารแต่ทำไมไม่ผอม เมื่อเกิดอยากทานขึ้นมา ก็จะทานมากและอ้วนขึ้นมาเท่ากับที่ลดลงหรือมากกว่า เรียกว่า Yoyo effect
7.เกี่ยวกับการทานอาหาร
-จำไว้ว่าเราทานอาหารเพื่อให้มีชีวิตอยู่ ไม่ใช่อยู่เพื่อกิน
-ทานอาหารได้ทุกอย่างที่คุณอยากทาน แต่อย่าทานทุกอย่างในเวลาเดียวกัน ให้ใช้วิธีกระจายความอยากทานแทน เช่น อยากทานข้าวขาหมู ขนมเค้ก แกงเขียวหวาน ข้าวมันไก่ บัวลอยไข่หวาน
ให้ทานวันละอย่างแทน แค่นี้ก็ทานได้ทุกอย่างที่ต้องการเพียงแต่ คนละวันกันเท่านั้นเอง
-ทานอาหารด้วยจานใบเล็ก จะทำให้ทานน้อยลง
-ทานน้ำก่อนทานข้าว ท้องอิ่ม จะทำให้ทานข้าวได้น้อยลง
-เคี้ยวข้าว ช้าๆ เพื่อให้ร่างกายได้รู้ว่าอิ่ม ก็จะทานอาหารได้น้อยลง การเคี้ยวข้าวเร็วทำให้เกิดลมในกระเพาะ และยังทำให้อิ่มช้า เพราะว่าสมองสั่งว่ายังไม่อิ่ม จึงทานต่อ
-เมื่อทานน้อยลงกระเพาะของคุณก็จะเล็กลงด้วย
-ใช้ตะเกียบทานอาหาร จะทำให้ทานอาหารได้ช้าลงและอิ่มได้ไวขึ้น จะทานข้าวได้น้อยลง
-หลีกเลี่ยงอาหารประเภททอด ผัด ให้นึ่ง หรือต้มแทน แต่ไม่ห้ามทานขาดเลย ทานได้ แต่นานๆ ครั้ง
-หลีกเลี่ยงของหวานต่างๆ เช่น ขนมเค้ก ขนมหวาน
-ดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว การออกกำลังกาย และควบคุมอาหาร ถ้าขาดน้ำ ผิวพรรณจะเหี่ยวย่น ไม่กระชับ
-ทานอาหารที่มีเส้นใย มีประโยชน์สำหรับการลดน้ำหนัก และกับสุขภาพ ทำให้ลำไส้ใหญ่ทำงานได้ดีขึ้น ทำให้ระบบในร่างกายสะอาด ระบบขับถ่ายคล่อง
-ไม่ควรทานอาหารดึกเกินไป จะทำให้ลดน้ำหนักยากขึ้น
-อย่าอดอาหารเช้า มื้อเช้าสำคัญต่อร่างกายมาก
-ถ้าทานมากในวันนี้ วันรุ่งขึ้นก็ทานน้อยลงแทนการอดอาหาร และออกกำลังกายร่วมด้วย
-ควรเริ่มทานอาหารเพราะว่าหิวจริงๆ มิใช่อยากทาน หรือเห็นคนอื่นทานก็ต้องทานตาม
-อาหารที่อยากทานจริงๆ ก็ทาน ไม่ต้องอด ให้ทานแต่น้อยแก้อยาก เพราะจะอดได้ไม่นาน แล้วจะทานมากขึ้นในตอนหลัง
-อย่าทานอาหารเหมือนเดิมทุกวัน เพราะว่าจะทำให้เบื่อการควบคุมอาหาร เปลี่ยนเมนูอาหารไปเรื่อย ไม่เบื่ออาหารด้วย
-ระวังอาหารที่มีไขมัน และน้ำตาลสูง อาจจะเป็นบ่อเกิดของโรคในอนาคต เช่น เบาหวาน
-ทานอาหารขณะร้อน เพราะว่าจะทำให้คุณทานอาหารได้ช้าลง
-ไม่ต้องเลิกทานอาหารที่คุณชอบ แต่ให้ทานน้อยลงแทน
-หลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นกะทิ ทานเพียงเดือนละครั้ง หรือ สองครั้งต่อเดือนก็พอเพียงแล้ว
-เมื่อเราทานไขมันน้อยลง ร่างกายก็จะนำไขมันที่เก็บสะสมไว้ มาใช้ ทำให้ไขมันในร่างกายลดลง
-เมื่อทานขนมปังแทนข้าว เมื่อหิว เพราะหลังจากทานเสร็จจะไม่อิ่ม และยังได้แป้งมากกว่าทานข้าวอีกด้วย หิวแล้วทานข้าวดีกว่า และทานผลไม้ร่วมด้วย ช่วยให้ระบบขับถ่ายดีด้วย
-อย่าปล่อยให้หิวมากๆ แล้วทาน เพราะว่าจะทำให้ทานอาหารมากขึ้น เพราะว่าเราจะทานด้วยความเร็ว ทำให้ทานเยอะ วิธีแก้ ให้ดื่มน้ำมากๆ ก่อนทานอาหาร จะช่วยลดอัตราความยากทานและอัตราความเร็วของการตักข้าวลง
-จำไว้ว่าเราทานอาหารเพื่อให้มีชีวิตอยู่ ไม่ใช่อยู่เพื่อกิน
-ทานอาหารได้ทุกอย่างที่คุณอยากทาน แต่อย่าทานทุกอย่างในเวลาเดียวกัน ให้ใช้วิธีกระจายความอยากทานแทน เช่น อยากทานข้าวขาหมู ขนมเค้ก แกงเขียวหวาน ข้าวมันไก่ บัวลอยไข่หวาน
ให้ทานวันละอย่างแทน แค่นี้ก็ทานได้ทุกอย่างที่ต้องการเพียงแต่ คนละวันกันเท่านั้นเอง
-ทานอาหารด้วยจานใบเล็ก จะทำให้ทานน้อยลง
-ทานน้ำก่อนทานข้าว ท้องอิ่ม จะทำให้ทานข้าวได้น้อยลง
-เคี้ยวข้าว ช้าๆ เพื่อให้ร่างกายได้รู้ว่าอิ่ม ก็จะทานอาหารได้น้อยลง การเคี้ยวข้าวเร็วทำให้เกิดลมในกระเพาะ และยังทำให้อิ่มช้า เพราะว่าสมองสั่งว่ายังไม่อิ่ม จึงทานต่อ
-เมื่อทานน้อยลงกระเพาะของคุณก็จะเล็กลงด้วย
-ใช้ตะเกียบทานอาหาร จะทำให้ทานอาหารได้ช้าลงและอิ่มได้ไวขึ้น จะทานข้าวได้น้อยลง
-หลีกเลี่ยงอาหารประเภททอด ผัด ให้นึ่ง หรือต้มแทน แต่ไม่ห้ามทานขาดเลย ทานได้ แต่นานๆ ครั้ง
-หลีกเลี่ยงของหวานต่างๆ เช่น ขนมเค้ก ขนมหวาน
-ดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว การออกกำลังกาย และควบคุมอาหาร ถ้าขาดน้ำ ผิวพรรณจะเหี่ยวย่น ไม่กระชับ
-ทานอาหารที่มีเส้นใย มีประโยชน์สำหรับการลดน้ำหนัก และกับสุขภาพ ทำให้ลำไส้ใหญ่ทำงานได้ดีขึ้น ทำให้ระบบในร่างกายสะอาด ระบบขับถ่ายคล่อง
-ไม่ควรทานอาหารดึกเกินไป จะทำให้ลดน้ำหนักยากขึ้น
-อย่าอดอาหารเช้า มื้อเช้าสำคัญต่อร่างกายมาก
-ถ้าทานมากในวันนี้ วันรุ่งขึ้นก็ทานน้อยลงแทนการอดอาหาร และออกกำลังกายร่วมด้วย
-ควรเริ่มทานอาหารเพราะว่าหิวจริงๆ มิใช่อยากทาน หรือเห็นคนอื่นทานก็ต้องทานตาม
-อาหารที่อยากทานจริงๆ ก็ทาน ไม่ต้องอด ให้ทานแต่น้อยแก้อยาก เพราะจะอดได้ไม่นาน แล้วจะทานมากขึ้นในตอนหลัง
-อย่าทานอาหารเหมือนเดิมทุกวัน เพราะว่าจะทำให้เบื่อการควบคุมอาหาร เปลี่ยนเมนูอาหารไปเรื่อย ไม่เบื่ออาหารด้วย
-ระวังอาหารที่มีไขมัน และน้ำตาลสูง อาจจะเป็นบ่อเกิดของโรคในอนาคต เช่น เบาหวาน
-ทานอาหารขณะร้อน เพราะว่าจะทำให้คุณทานอาหารได้ช้าลง
-ไม่ต้องเลิกทานอาหารที่คุณชอบ แต่ให้ทานน้อยลงแทน
-หลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นกะทิ ทานเพียงเดือนละครั้ง หรือ สองครั้งต่อเดือนก็พอเพียงแล้ว
-เมื่อเราทานไขมันน้อยลง ร่างกายก็จะนำไขมันที่เก็บสะสมไว้ มาใช้ ทำให้ไขมันในร่างกายลดลง
-เมื่อทานขนมปังแทนข้าว เมื่อหิว เพราะหลังจากทานเสร็จจะไม่อิ่ม และยังได้แป้งมากกว่าทานข้าวอีกด้วย หิวแล้วทานข้าวดีกว่า และทานผลไม้ร่วมด้วย ช่วยให้ระบบขับถ่ายดีด้วย
-อย่าปล่อยให้หิวมากๆ แล้วทาน เพราะว่าจะทำให้ทานอาหารมากขึ้น เพราะว่าเราจะทานด้วยความเร็ว ทำให้ทานเยอะ วิธีแก้ ให้ดื่มน้ำมากๆ ก่อนทานอาหาร จะช่วยลดอัตราความยากทานและอัตราความเร็วของการตักข้าวลง
8.ในแง่ความคิด
-ให้คิดว่าตัวเองสามารถทำได้ และต้องทำให้ได้
-รักตัวเองให้มากๆ คุณจะอ้วนหรือคุณจะผอม ก็ไม่ได้ทำให้ความเป็นมนุษย์ของคุณลดน้อยลง ยังคงมีความเป็นมนุษย์ได้เท่าเทียมกันคนสวย หล่อ
-คิดในแง่บวกเสมอ และอารมณ์ดีอยู่เสมอ
-เอาชนะความอยากให้ได้
-เปลี่ยนความรู้สึกอับอายจากการถูกผู้อื่นที่ดูถูกเรา เป็นพลังในการควบคุมจิตใจตนเอง
-บางท่านอาจจะต้องเปลี่ยนความคิดในด้านรักตัวเองซะใหม่
-เผชิญปัญหา อย่าหนีปัญหา การทานยาลดความอ้วนเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ
-ให้คิดว่าตัวเองสามารถทำได้ และต้องทำให้ได้
-รักตัวเองให้มากๆ คุณจะอ้วนหรือคุณจะผอม ก็ไม่ได้ทำให้ความเป็นมนุษย์ของคุณลดน้อยลง ยังคงมีความเป็นมนุษย์ได้เท่าเทียมกันคนสวย หล่อ
-คิดในแง่บวกเสมอ และอารมณ์ดีอยู่เสมอ
-เอาชนะความอยากให้ได้
-เปลี่ยนความรู้สึกอับอายจากการถูกผู้อื่นที่ดูถูกเรา เป็นพลังในการควบคุมจิตใจตนเอง
-บางท่านอาจจะต้องเปลี่ยนความคิดในด้านรักตัวเองซะใหม่
-เผชิญปัญหา อย่าหนีปัญหา การทานยาลดความอ้วนเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ
9.ใช้รูปเพื่อช่วยลดน้ำหนัก
-ติดรูปตอนที่ตัวเองผอม หรือรูปหญิงสาวหุ่นดีๆ ไว้ที่หน้าตู้เสื้อผ้าของคุณ เป็นการช่วยเตือนให้อยากผอม
-ติดรูปตอนที่เราอ้วนที่สุด หรือรูปหญิงสาวที่อ้วนมากๆ ไว้ที่หน้าตู้เย็นรูปใหญ่ๆ เพื่อเป็นการช่วยเตือนเราให้ระวังการทานทุกครั้งที่เราเปิดตู้เย็น
-ติดรูปคนที่เรารัก เพื่อช่วยเป็นกำลังใจไว้ที่หน้าตู้เสื้อผ้า และหน้าตู้เย็น เพื่อเป็นกำลังใจให้กับเรา
-ติดรูปคนที่ชอบว่าเราอ้วน ดูถูกเราว่าเราไม่มีทางลดน้ำหนักให้ผอม และสวย สุขภาพดีไว้ที่หน้าตู้เย็นใบใหญ่ๆ เพื่อช่วยกระตุ้นเราให้อยากทานอาหารที่ไม่จำเป็นน้อยลง
-ติดรูปตอนที่ตัวเองผอม หรือรูปหญิงสาวหุ่นดีๆ ไว้ที่หน้าตู้เสื้อผ้าของคุณ เป็นการช่วยเตือนให้อยากผอม
-ติดรูปตอนที่เราอ้วนที่สุด หรือรูปหญิงสาวที่อ้วนมากๆ ไว้ที่หน้าตู้เย็นรูปใหญ่ๆ เพื่อเป็นการช่วยเตือนเราให้ระวังการทานทุกครั้งที่เราเปิดตู้เย็น
-ติดรูปคนที่เรารัก เพื่อช่วยเป็นกำลังใจไว้ที่หน้าตู้เสื้อผ้า และหน้าตู้เย็น เพื่อเป็นกำลังใจให้กับเรา
-ติดรูปคนที่ชอบว่าเราอ้วน ดูถูกเราว่าเราไม่มีทางลดน้ำหนักให้ผอม และสวย สุขภาพดีไว้ที่หน้าตู้เย็นใบใหญ่ๆ เพื่อช่วยกระตุ้นเราให้อยากทานอาหารที่ไม่จำเป็นน้อยลง
10.การอบไอน้ำ
ไม่ได้ช่วยให้ลดน้ำหนัก แต่เป็นการรีดน้ำออกจากตัว แต่หลังจากทานน้ำเข้าไป ร่างกายก็กลับมาอ้วนต่อ
ไม่ได้ช่วยให้ลดน้ำหนัก แต่เป็นการรีดน้ำออกจากตัว แต่หลังจากทานน้ำเข้าไป ร่างกายก็กลับมาอ้วนต่อ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น